เคยหรือไม่? เลือกทำประกันรถยนต์ คิดว่าเป็นบริษัทที่ดีที่สุดแล้ว แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เจอบริการที่ไม่ได้เรื่อง เคลมช้า ซ่อมไม่ดี จนอยากจะเปลี่ยนบริษัทประกัน สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบว่าอยากเปลี่ยนประกันรถ ก่อนกรมธรรม์หมดรอบทำได้หรือไม่ แล้วมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
เปลี่ยนประกันรถ ก่อนกรมธรรม์หมดทำได้หรือไม่?
โดยปกติการทำประกันรถยนต์จะเป็นการให้ความคุ้มครองแบบปีต่อปี ก็คือผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถจะต้องต่อประกันรถยนต์ทุกปีนั่นเอง แต่ในกรณีที่เจอปัญหาในการใช้บริการบริษัทประกันเดิม เคลมช้า ซ่อมไม่ดี บริการไม่ได้ หรือรู้สึกว่าประกันที่ทำอยู่ให้ความคุ้มครองที่ไม่คุ้มค่า เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนประกันรถ ก่อนกรมธรรม์หมดได้ ถือเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม
ซึ่งสามารถเลี่ยนได้ทั้งตอนที่ได้รับการคุ้มครองแล้ว หรือยังไม่ได้รับการคุ้มครองก็ตาม ในกรณีที่พึ่งทำประกันไปหมาดๆ ยังไม่ได้รับความคุ้มครอง จะสามารถยกเลิกได้ทันทีไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนกรณีที่ได้รับความคุ้มครองแล้ว ต้องส่งเอกสารยกเลิกประกันเดิม รวมถึงเสียค่าธรรมเนียมในการเวนคืนกรมธรรม์ แต่การยกเลิกกรมธรรม์ก่อนสิ้นอายุสัญญาจะได้รับเงินส่วนต่างคืนด้วยโดยส่วนต่างที่ได้รับคืน จะถูกคำนวนจากวันที่เริ่มคุ้มครองไปจนถึงวันที่ทำการยกเลิกกรรมธรรม์
ข้อดี – ข้อเสีย ของการเปลี่ยนประกันรถ ก่อนกรมธรรม์หมด
ข้อดีของการเปลี่ยนประกันรถก่อนกรมธรรม์หมด
- ได้ความสบายใจ
สาเหตุหลักๆ ของการเปลี่ยนประกันรถยนต์ คือได้รับบริการที่ไม่ดี ซึ่งเมื่อตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถ สิ่งที่ได้อย่างแรกเลยคือความสบายใจ แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกบริษัทประกันใหม่แนะนำให้ตรวจสอบ หรือดูรีวิวให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอปัญหาเดิมๆ หรือหนักกว่าเดิมก็ได้
- ได้ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ตามความต้องการ
อีกหนึ่งสาเหตุยอดฮิต ของการเปลี่ยนประกันรถยนต์ คือความไม่คุ้มค่า รู้สึกว่าประกันเดิมไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ รู้สึกว่าเสียเบี้ยประกันแพงเกินใช้เหตุ ซึ่งการเปลี่ยนประกันรถยนต์ใหม่จะทำให้ได้ประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่มากขึ้น
- จ่ายเบี้ยประกันถูกลง
ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเลือกเปลี่ยนประกันรถยนต์ คือเจอประกันที่เบี้ยประกันถูกกว่าแต่ให้ความคุ้มครองเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม รวมถึงยังอาจได้โปรโมชั่นดีๆ เสริมมาด้วย
ข้อเสียของการเปลี่ยนประกันรถก่อนกรมธรรม์หมด
- หนีเสือปะจระเข้
อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนประกันรถยนต์จะได้รับความสบายใจ แต่ในทางกลับกันถ้าเปลี่ยนแล้วยังเจอปัญหาเดิม หรือแย่กว่าเดิมก็จะทำให้รู้สึกว่าตัดสินใจผิดเช่นเดียวกัน
- เสียค่าธรรมเนียม
ในการเปลี่ยนประกันรถ จะต้องทำการยกเลิกกรมธรรม์เดิม ซึ่งหากกรมธรรม์เดิมมีการคุ้มครองไปแล้วก็จะต้องเสียค่าส่วนต่างในการขอยกเลิก รวมถึงเสียค่าอากรแสตมป์ด้วย
- เสียเวลา
แน่นอนว่าการเปลี่ยนประกันรถจะต้องเสียเวลาอย่างแน่นอน เพราะทั้งต้องยื่นเอกสารยกเลิกประกันเดิม และยื่นเอกสารทำประกันใหม่
เปลี่ยนประกันรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
สำหรับเอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนประกันรถยนต์ ก่อนกรมธรรม์หมดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
- เอกสารที่ใช้ในการยกเลิกประกันรถเดิม
- สำเนาบัตรประชาชน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ขีดคร่อมว่า ต้องการยกเลิกกรมธรรม์ประกันรถ เลขที่… )
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีมีการคืนเงิน)
- กรมธรรม์ต้นฉบับ
- เอกสารที่ใช้ในการทำประกันรถใหม่
- สำเนาบัตรประชาชน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ขีดคร่อมว่า ต้องการให้คุ้มครองตั้งแต่วันที่… )
- สำเนาเล่มทะเบียน
- รูปถ่าย หรือเอกสารการตรวจสภาพรถ จากเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกัน (กรณีทำประกันรถยนต์ชั้น 1)
สำหรับใครที่เจอปัญหา ไม่พึงพอใจบริษัทประกันรถยนต์เดิม ทั้งด้านการบริการหรือตัวกรมธรรม์ที่ไม่ตอบโจทย์ อยากจะเปลี่ยนประกันรถยนต์ สามารถเลือกทำประกันรถยนต์กับ Rabbit Care ได้ที่ www.rabbitcare.com เว็บไซต์ที่รวบรวมบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำระดับประเทศเอาไว้ให้เลือกมากมาย สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองได้ด้วยตัวเอง ทำให้ได้ประกันรถยนต์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ที่สำคัญยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ เสริมอีกด้วย ได้ทั้งประกันราคาดี ประกันที่ถูกใจ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว